ราคาแบบโอน 850 บาท/กล่อง (บรรจุ 10 กิโล)
(ค่าอะโวคาโด 700 บาท + ค่าจัดส่ง 150 บาท)
(เพิ่มค่าจัดส่งอีก 50 บาท ตามเงื่อนไขของบริษัทขนส่ง คือ 3 จังหวัด
ชายแดนภาคใต้ และ พื้นที่ที่เป็นเกาะ )
ราคานี้ รวมการจัดส่งถึงบ้านเรียบร้อยแล้ว
ส่งทั่วประเทศด้วย kerry express
ใช้เวลาส่ง 1-2 วันตามมาตรฐานการส่งของ kerry
ส่งทั่วประเทศด้วย kerry express
ใช้เวลาส่ง 1-2 วันตามมาตรฐานการส่งของ kerry


ใน 1 กล่อง จะบรรจุอะโวคาโด 10 กิโลกรัม (ประมาณ 13 - 20 ลูก) บรรจุลงในกล่องผลไม้มาตรฐาน มี รูระบายอากาศ รอบทิศทาง มีมาตรฐานแข็งแรง และผนึกอย่างดี ได้มาตรฐาน


ไม่ได้แบ่งค่ะ เพราะเราขายออนไลน์ จัดส่งทั่วประเทศ จำเป็นจะต้องจัดหาบรรจุภัณฑ์ที่มีมาตรฐาน และ การคำนวณค่าจัดส่งให้พอดี และคุ้มค่าสำหรับลูกค้าที่ชื่นชอบอะโวคาโดได้ทานกันค่ะ


หากลูกค้าทานวันละ 1-2 ลูก ประมาณ 2 สัปดาห์ ก็หมดแล้วค่ะ
แต่อะโวคาโด ของเรา ส่งตรงมาจากสวน วันต่อวัน หากจัดเก็บรักษาไว้ในอุณหภูมิห้อง (เช่น ห้องครัว) โดยการแร๊บด้วยพลาสติกใสไม่ให้โดนอากาศ จะเก็บรักษาได้ประมาณ 20 - 30 วัน เลยค่ะ มั่นใจค่ะ...ลูกค้าทานหมดแน่นอน หากไม่หมด แนะนำ หารกับเพื่อน หรือ นำไปฝากญาติค่ะ ดีต่อใจ จริง ๆ


อาจมีบ้างนะคะ เพราะเราขายผลไม้สด แต่ก่อนจะถึงมือลูกค้า เราได้ทำการคัดสรร อย่างดี แต่ถ้าหากเกิดข้อผิดพลาดต้องขออภัยล่วงหน้าไว้เลยค่ะ
(((แต่ถ้า))) ลูกค้ารับสินค้าแล้วพบเจอ เน่า เสีย กรุณาถ่ายรูปส่งกลับตามช่องทางที่สั่งซื้อ เพื่อเคลมส่วนลดความเสียหายตามจริงได้ค่ะ


ควรนำออกจากกล่อง เพื่อให้อากาศถ่ายเท แล้วแร๊บด้วยพลาสติกใสไม่ให้โดนอากาศ ส่วนที่ยังไม่สุก มีวิธีการบ่มคือการห่อด้วยกระดาษหนังสือพิมพ์ประมาณ 2-3 วัน พอเปลือกเริ่มสีเข้มขึ้น และนุ่มมือ ก็ทานได้แล้วค่ะ
#รู้จักอะโวคาโด
อะโวคาโด มีชื่อทางวิทยาศาสตร์ว่า Persea Americana Mill เป็นผลไม้พื้นเมืองของประเทศเม็กซิโก ซึ่งชาวเม็กซิกันนิยมใช้เนื้ออะโวคาโดมาปรุงอาหารแทนเนย
ในประเทศไทย มีการนำอะโวคาโดมาปลูกครั้งแรกที่จังหวัดน่าน ก่อนจะกระจายไปทั่วประเทศ นิยมรับประทานกันในกลุ่มผู้รักสุขภาพ ได้มีการนำมาสร้างสรรค์เป็นเมนูที่น่ารับประทานอย่างหลากหลาย เช่น นำมาเป็นส่วนประกอบของซูชิ หรือแซนด์วิช ปรุงอาหารฟิวชันต่าง ๆ
อะโวคาโดเป็นผลไม้ที่มีความแปลกอยู่อย่างหนึ่ง คือ ผลจะไม่สุกที่ต้น แต่จะสุกหลังจากที่เก็บมาแล้ว จึงสามารถนำมารับประทานหรือวางขายได้
ประโยชน์ของอะโวคาโด มีดังนี้
#เป็นแหล่งของกรดไขมันชนิดดี
อะโวคาโดมีไขมันชนิดดี คือ กรดไขมันไม่อิ่มตัวตำแหน่งเดียว (Monounsaturated fatty acids) ถึง 70% ซึ่งมีประโยชน์ต่อหลอดเลือดแดง เพราะจะช่วยลดไขมันเลวในหลอดเลือด เช่น โคเลสเตอรอลชนิดแอลดีแอล (Low Density Lipoprotein-LDL) และไตรกลีเซอไรด์ ช่วยลดโอกาสเสี่ยงของโรคเส้นเลือดหัวใจตีบและโรคหัวใจวายที่อาจเกิดขึ้นในอนาคตได้
#บำรุงระบบประสาทและสมอง
หนุ่มสาววัยทำงานที่ต้องใช้แรงกายแรงสมองในการทำงาน ควรรับประทานอะโวคาโดเป็นประจำ เพราะในอะโวคาโดมีกรดโอเลอิก (Oleic acid) ซึ่งมีผลดีและมีความสำคัญต่อระบบประสาทและสมอง ช่วยบำรุงให้การทำงานของสมองมีความรวดเร็ว ไม่เมื่อยล้า แม้สมองต้องทำงานอย่างหนัก
#ลดความเสี่ยงในการเกิดโรคมะเร็ง
ในอะโวคาโดมีวิตามินอี ซึ่งมีฤทธิ์ในการช่วยต้านอนุมูลอิสระ ช่วยป้องกันเซลล์ในร่างกายไม่ให้ถูกทำลายจากมลพิษรอบตัวทั้งจากภายในและภายนอก ทั้งยังช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดมะเร็งเต้านมในผู้หญิงได้ เพราะในอะโวคาโดมีลูทีน (Lutien) เป็นหนึ่งในสารต้านอนุมูลอิสระกลุ่มแคโรทีนอยด์
#บำรุงและรักษาดวงตา
ในอะโวคาโด มีสารลูทีน (Lutein) และ ซีแซนทีน (Zeaxanthin) มีประโยชน์อย่างยิ่งต่อสุขภาพดวงตา มีส่วนช่วยลดความเสี่ยงของการเกิดโรคทางดวงตาหลายชนิด ที่สำคัญคือ โรคต้อกระจก และโรคจุดรับภาพเสื่อม
#มีโพแทสเซียมสูง
ในอะโวคาโด 100 กรัม จะมีโพแทสเซียมสูงถึง 14% และกล้วยจะมีโพแทสเซียมอยู่ 10% ซึ่งจากการวิจัยพบว่า หากเราได้รับโพแทสเซียมในปริมาณที่มากพอจะสามารถช่วยลดความดันโลหิตได้ ซึ่งเป็นสาเหตุสำคัญของโรคหัวใจ นอกจากนั้นโพแทสเซียม ยังมีส่วนช่วยในการรักษาสมดุลของน้ำ กรด-ด่างในร่างกายของเราอีกด้วย
#มีไฟเบอร์สูง
อะโวคาโดครึ่งลูกมีไฟเบอร์ 6-7 กรัม โดยแต่ละคนมีความต้องการไฟเบอร์ในปริมาณที่แตกต่างกันออกไป ในหนึ่งวัน ผู้หญิงควรได้รับไฟเบอร์ 25 กรัม และผู้ชายควรได้รับไฟเบอร์ 38 กรัม รับประทานอะโวคาโดแค่ครึ่งลูกก็เกือบได้ไฟเบอร์ในปริมาณที่ต้องการในแต่ละวันแล้ว
อะโวคาโดมาพร้อมกับประโยชน์ที่เข้าถึงกลุ่มวัยรุ่นไปจนถึงผู้สูงอายุเลยทีเดียว และสามารถนำมาปรุงอาหารได้อย่างหลากหลายด้วยรสชาติที่เป็นเอกลักษณ์อีกด้วย
ราคาขายอะโวคาโด
Reviewed by TTBB
on
กุมภาพันธ์ 25, 2591
Rating:

ไม่มีความคิดเห็น: